ปัญหาการกลืน แก้ได้อย่างไรในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดของโรคทางระบบประสาท สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เกิดจากการที่สมองนั้นขาดเลือดไปเลี้ยง จึงส่งผลให้เกิดการบกพร่องทางร่างกาย หรือความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว เช่น มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา มีอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ปัญหาด้านการพูด และอีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองก็คือ ปัญหาการกลืน ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมครับว่าผู้ที่มี ปัญหาการกลืน หรือภาวะกลืนลำบากเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ
ภาวะกลืนลำบากเป็นภาวะที่มีความผิดปกติในการส่งผ่านอาหารจากช่องปากลงไปยังกระเพาะอาหาร มีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อในการเคี้ยวและกลืน เป็นอีกหนึ่งภาวะที่สามารถพบได้บ่อยในผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง จะมีอาการแสดงคือ สำลัก ไอ เสียงแหบ เสียงเครือ ระหว่างการกลืนน้ำและอาหาร เหนื่อยหรือหายใจเร็วขึ้น ขณะรับประทานอาหาร รู้สึกเหมือนมีอาหารติดในลำคอ โดยอาการเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารได้น้อยลง ส่งผลให้ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เกิดการติดเชื้อที่ปอดจากการสำลัก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตได้ แต่ ปัญหาการกลืน ที่มีภาวะกลืนลำบากสามารถออกกำลังกายและกระตุ้นให้กลับมากลืนได้ปกติ มาถึงตรงนี้คงอยากรู้ใช่ไหมครับว่า จะมีวิธีการรักษาฟื้นฟูและกระตุ้นการกลืน เพื่อแก้ไข ปัญหาการกลืน ได้อย่างไรบ้าง มาทำความเข้าใจไปพร้อมๆกันเลยครับ
การกระตุ้นกลืน
1.การบริหารกล้ามเนื้อไหล่และคอ
– หันศีรษะไปซ้าย-ขวา
– ยักไหล่ขึ้นลงสองข้างพร้อมกัน
2.การบริหารกล้ามเนื้อปาก
– สูดลมหายใจเข้าลึกๆทำท่ายิ้มและหุบปากขยับโหนกแก้มให้สูง ขึ้น ทำค้างนับ 1-10 ปล่อยหน้ากลับที่เดิม
– อ้าปากกว้างๆ หรือออกเสียง “อา” ทำค้างไว้ 1-10 วินาที
– ห่อริมฝีปาก หรือออกเสียง “อู” ค้างไว้ 1-10 วินาที
– ยิ้มกว้างสลับห่อริมฝีปาก หรือออกเสียง “อี” สลับ “อู” ค้างไว้ 1-10 วินาที
– เม้มริมฝีปากให้แน่นค้างไว้ 1-10 วินาที
3.การบริหารลิ้น
– นำลิ้นแตะริมฝีปากบนด้านใน และย้ายลิ้นมาแตะริมฝีปากด้านล่าง
– ใช้ลิ้นแตะมุมปากทั้งสองข้างสลับกัน
– ใช้ลิ้นแตะกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างสลับกัน
– แลบลิ้นออกมาต้านกับไม้กดลิ้นหรือช้อน ในทิศทางตรงข้ามคือด้านหลังหรือทางซ้ายขวา
– ฝึกพูด “ลา ลา ลา” , “คา คา คา” , “คาลา คาลา คาลา” , “เอส เอส เอส” ซ้ำๆ จนคล่อง
- การบริหารขากรรไกร
– อ้าปากกว้างค้างไว้ 1-10 วินาที และออกเสียง “อา” และหุบปากให้ฟันกระทบกัน
– ปัดริมฝีปากแล้วเคลื่อนขากรรไกรล่างไปด้านข้างค้างไว้ 1-10 วินาที ทำสลับซ้ายขวา
– เคลื่อนไหวขากรรไกรในลักษณะการเคี้ยวข้าวหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง
เทคนิคในการจัดท่าทานอาหาร
- ประคองร่างกายส่วนบนด้วยหมอนหรือลิ่มจัดให้ลำตัวและศีรษะ อยู่ในท่าตั้งขึ้น
- ห่อหัวไหล่มาด้านหน้าเล็กน้อยโดยให้ข้อศอกและแขนวางบนหมอนหรือวางบนโต๊ะ
- ศีรษะอยู่ในแนวกลางลำตัว ก้มมาด้านหน้าเล็กน้อย หรือหันศีรษะไปด้านที่อ่อนแรงขณะที่กลืนเพื่อป้องกันการเล็ดลอด ของอาหารจากทางเดินอาหารเข้าสู่ทางเดินหายใจ
- หลังจากรับประทานอาหาร ควรจัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่านี้ ประมาณ 15-30 นาที แล้วจึงให้ผู้ป่วยนอนลงเพื่อป้องกันการขย้อนอาหารจากหลอดอาหารขึ้นมา
ประเภทอาหารในการฝึกกระตุ้นกลืน
ประเภทของอาหารและน้ำควรเหมาะสมกับระดับความสามารถของผู้ป่วยสามารถแบ่งได้ดังนี้
- Thick puree – No liquid เหมาะสำหรับผู้เริ่มทานอาหารทางปาก ไม่สามารถเคี้ยวหรือกลืนของเหลวได้ จึงต้องเป็นอาหารหนืด กลืนง่าย เช่น โจ๊ก โยเกิร์ต กล้วยบด
- Thick and Thin puree – Thick liquid สำหรับผู้ที่เริ่มเคี้ยวได้แล้วเล็กน้อย แต่ไม่สามารถกลืนอาหารที่เป็นของเหลวใสได้ อาหารชนิดนี้จึงเป็นอาหารที่มีส่วนผสมเป็นของเหลวมากกว่าชนิดแรก เช่น น้ำพรุน น้ำผลไม้ปั่นข้นๆ ครีมซุปข้น เนื้อปลานิ่มบด เป็นต้น
- Mechanical soft – Thick liquid สำหรับผู้ที่ยังกลืนอาหารเหลวลำบาก และผู้ที่เคี้ยวลำบาก เช่น ไข่ลวก แพนเค้ก มะม่วงสุกหรือผลไม้นิ่ม ปลานึ่ง ผักต้ม เป็นต้น
- Mechanical soft diet อาหารอ่อนปกติสำหรับผู้ที่มีภาวะกลืนลำบากเล็กน้อย อาหารนิ่มปานกลางเคี้ยวกลืนได้ง่าย เช่น ต้มจืด จับฉ่าย ข้าวต้ม ขนมหรือผลไม้นิ่ม
- Regular diet อาหารทั่วไปในผู้ป่วยที่เคี้ยวกลืนได้ดี เช่น ข้าวผัด ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว แต่ควรงดเว้นอาหารที่กลืนยากหรืออาจทำให้สำลักได้แก่ อาหารทอดกรอบ ถั่วหรือเมล็ดพืช ขนมปังกรอบ เป็นต้น
การฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและมีภาวะกลืนลำบาก จะต้องมีการประเมินเพื่อทราบถึงปัญหา และออกแบบวิธีการฝึกเพื่อกระตุ้นให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อส่งเสริมความสามารถทางการกลืนและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยการฝึกกลืนในข้างต้นสามารถนำมาปรับใช้ได้ เป็นท่าที่สามารถทำได้ง่ายและทำเองได้ที่บ้าน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการกลืนมีความแข็งแรงมากขึ้น รวมไปถึงการออกกำลังกายควรมีคนดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการสำลักหรือภาวะอื่นๆในการฝึก
เอกสารอ้างอิง
1.ลัดดา ศิลาเรียม, ธีรนุช ห้านิรัติศัย และสมบัติ มุ่งทวีพงษา. (2557). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมให้ญาติมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูสภาพต่อความสามารถในการกลืนและการรับประทานอาหารของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองระยะเฉียบพลัน, 41(ฉบับพิเศษ): 182.
2.เสาวลักษณ์ จันทรเกษมจิต และคณะ. (2563). การฝึกกลืนของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีภาวะกลืนลำบากในระยะคอหอย; 13(3): 205-209.