อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดสมอง เกิดขึ้นได้อย่างไร? เป็นแล้วหายมั้ย?

               หลายคนคงเคยเห็นหรือมีคนใกล้ตัวมีอาการ อ่อนแรงแขนขาข้างเดียวกัน แขนติดงอ เดินเอียงไปมา หรือที่เราเรียกกันว่า อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือ โรคหลอดเลือดสมอง

               อีกหนึ่งข้อสงสัย ทำไมได้ยินคนพูดถึงเยอะจัง ทำไมคนเป็นโรคนี้เยอะขึ้นทุกวันๆ ใครๆก็พูดถึง อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคนี้น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ แล้วเกิดจากอะไร เป็นแล้วต้องทำ กายภาพบำบัด มั้ย? วันนี้ ReBRAIN จะมาอธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆครับ

               คนไข้อัมพฤกษ์ หรืออัมพาต ในทางการแพทย์เราเรียกกันว่า “Stroke” (สโตรก) ครับ หลายคนคงเคยได้ยิน โรคนี้คือมีความผิดปกติเกิดขึ้นที่หลอดเลือดในสมองครับ ดังนั้นอีกชื่อหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ “ โรคหลอดเลือดสมอง ” นั่นเอง

                 โรคหลอดเลือดสมอง มีความผิดปกติ จะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะที่พบเจอได้บ่อย ๆ ได้แก่​

 1. โรคหลอดเลือดสมอง ตีบหรืออุดตัน (Infraction&Ischemic stroke)

                 ตรงตามชื่อเลยครับ มีบางสิ่งไปติดในหลอดเลือดสมอง ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง เลือดไหลผ่านบริเวณนั้นไปส่วนปลายน้อยลง ถ้าสิ่งที่ไปอุดตันใหญ่ ก็จะทำให้หลอดเลือดสมองตัน ไม่มีเลือดไหลไปส่วนปลายนั่นเอง เมื่อสมอง

ส่วนปลายได้รับเลือดน้อยลง จึงเกิดอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว ให้เห็นนั่นเองครับ

ขยายความเพิ่มเติมครับ บางสิ่งที่อุดดันข้างต้นนั้นก็คือ ไขมันในผนังหลอดเลือด หรือลิ่มเลือดที่หลุดมาจากตำแหน่งอื่น ดังนั้นการป้องกันเบื้องต้น ถ้าเราสามารถควบคุมไขมันในเลือด ไม่ให้เกิดเกณฑ์ที่กำหนด จะเป็นหนึ่งอย่างที่สามารถลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้ครับ

2. โรคหลอดเลือดสมอง แตก (Hemorrhagic stroke)

คือ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับหลอดเลือดสมอง ผนังหลอดเลือดเกิดการฉีกขาด เลือดออกในสมอง เมื่อเลือดออกมากขึ้นจะเกิดแรงดันในศีรษะมากกว่าปกติ เลือดจึงไปกดสมอง ทำให้สมองได้รับบาดเจ็บ เกิดอาการอาการอ่อนแรง พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว เช่นเดียวกันครับ

อาการ ชาแขนขา อ่อนแรงข้างเดียวกัน พูดไม่ชัด ปากเบี้ยวของโรคหลอดเลือดสมองทั้งสองลักษณะนี้มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที หากพบเห็นคนใกล้ตัวที่มีอาการลักษณะนี้ นั่นหมายความว่า “สมองเริ่มขาดเลือดแล้ว” สิ่งที่น่ากลัวของโรคนี้คือ เมื่อเกิดภาวะสมองขาดเลือด จะมีเซลล์สมองเริ่มตายนับตั่งแต่วินาทีแรก สมองที่ตายจะไม่มีโอกาสกลับมาทำงานได้อยากปกติครับ พูดง่ายๆคือ แขนขาที่อ่อนแรงไปจะมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมามีแรงได้ปกติ 100% ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำเมื่อพบเห็นคนที่มีอาการเหล่านี้อย่างฉับพลัน คือ พาลงนอนราบ และส่งไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ให้เร็วที่สุด แพทย์จะทำการรักษาเพื่อหยุดภาวะสมองขาดเลือด และลดการตายของเซลล์สมองให้มากที่สุดนั่นเองครับ

        ปัจจุบันแนวทางการ รักษาฟื้นฟู ผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมอง ในระยะยาว คือการทำ กายภาพบำบัด ฝึกการเคลื่อนไหวของร่างกายในท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อให้สมองเรียนรู้ จดจำ และกระตุ้นการสั่งงานของสมองที่ยังคงเหลืออยู่ ให้ทำงานทดแทนส่วนที่ตายไปครับ 

การฟื้นตัวของผู้ป่วยกลุ่มนี้จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ ได้แก่ สมองส่วนที่ตายนั้นมากหรือน้อยขนาดไหน(ไปพบแพทย์เร็วหรือช้า) ตำแหน่งที่เกิดอาการเป็นตำแหน่งที่สำคัญหรือไม่ (ดวงดีหรือไม่ดี) ผู้ป่วยร่วมมือในการ ทำกายภาพบำบัด มากน้อยขนาดไหน(สู้หรือไม่สู้) ทำกายภาพที่บ้าน หรือออกกำลังกายเองบ่อยขนาดไหน เป็นต้นครับ

สุดท้ายนี้ ReBRAIN ขอฝากเอาไว้ถึงผู้ป่วย โรคหลอดเลือดสมอง ทุกคนนะครับ “สู้ๆและตั่งใจทำ กายภาพบำบัด ต่อไปนะครับ” ถ้าเรายังสู้สมองยังฟื้นฟูได้อย่างแน่นอนครับ มีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาอาการติอต่อ ReBRAIN ได้เลยนะครับ

Scroll to Top