การใช้ เครื่องดึง (traction) รักษาโรคได้จริงหรือ

การใช้ เครื่องดึง (traction) รักษาโรคได้จริงหรือ

หลายท่านอาจได้มีโอกาสใช้ หรือเคยเห็น เครื่องดึง เครื่องมือทางกายภาพบำบัดตามคลินิกที่ใช้ดึงคอ และหลังกันแล้ว เครื่องนี้ช่วยอะไร อาการแบบไหนทำได้ หรือไม่ได้ เรามาดูกันครับ
การดึง เป็นการใช้แรงกระทำเพื่อยืด  เนื้อเยื่อ แยกข้อต่อหรือกระดูก โดยแรงที่กระทำต้องมาก และนานพอในทิศทางที่เหมาะสมเพื่อต้านแรงต้านจากร่างกายในทิศทางตรงข้าม มีหลายวิธีด้วยกันเช่น การดึงด้วยมือ
การใช้น้ำหนักถ่วง หรือการใช้เครื่องดึง(traction)  ซึ่งการใช้เครื่องสามารถปรับเป็นดึงต่อเนื่อง หรือดึงสลับพักได้ เครื่องดึงมี2 ชนิดคือ ดึงคอ(Cervical traction) และดึงเอว(Lumbar traction)
การใช้เครื่องดึงหวังผลหลักๆดังนี้ ยืดกล้ามเนื้อเพื่อลดอาการเกร็ง, ลดแรงกดที่หมอนรองกระดูกสันหลัง, ทำให้ intervertebral foramen กว้างออก เพื่อลดการกดต่อรากประสาท และเพิ่มช่องว่างระหว่างกระดูกสัน             หลังระดับคอ หรือเอว ภาวะที่ควรใช้เครื่องดึง(traction) คือ ภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้น(herniated nucleus pulposus), รากประสาทถูกกดทับ(nerve root impingement), โรคข้อกระดูกสันหลัง
เสื่อม(spondylosis),   มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อคอหรือหลัง(paraspinal muscle spasm) ข้อห้ามทั่วไปของการดึง(traction) คือการอักเสบติดเชื้อของกระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลัง, มะเร็งของกระดูก หรือไขสันหลัง, กระดูกสันหลังหัก หรือเคลื่อน, หญิงตั้งครรภ์, ไขสันหลังถูกกดทับ, ความดัน โลหิตสูงที่ควบคุมไม่ได้, กระดูกพรุนขั้นรุนแรง, หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทตำแหน่งตรงกลาง เพราะการดึงอาจทำให้กดทับรากประสาทเพิ่มขึ้น

การใช้เครื่องดึง(traction) มี 2 แบบ
1. การดึงคอ(Cervical traction) สามารถทำได้ทั้งท่านอน และนั่ง มุมที่เหมาะสำหรับการรักษาคือ 20-30 องศา ส่วนน้ำหนักที่ใช้ดึงขึ้นกับวัตถุประสงค์การรักษา น้ำหนัก 5-7 กิโลกรัม ช่วยลดเกร็งกล้ามเนื้อคอ หากต้องการดึงแยกข้อต่อ ต้องใช้น้ำหนักมากกว่าร้อยละ 7 ของน้ำหนักตัว การดึงท่านอนผู้ป่วยจะผ่อนคลายกว่า แต่ท่านั่งจะสะดวกกว่าในการจัดมุมการรักษาข้อห้าม มีดังนี้ การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบริเวณคอ, โรคหลอดเลือดบริเวณก้านสมองตีบ, โรคหลอดเลือดแดง carotid หรือ vertebral ตีบแข็ง และกระดูกคอข้อที่1 และ2ไม่มั่นคง จากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

  1. การดึงเอว(Lumbar traction) สามารถดึงได้ทั้งท่านอนหงาย และนอนคว่ำ ถ้าดึงเพื่อแยกข้อต่อ ควรดึงท่านอนหงายข้อสะโพกงอ 70 องศา ส่วนน้ำหนักที่ใช้ดึงขึ้นกับวัตถุประสงค์การรักษา ถ้าต้องการลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ ใช้น้ำหนักร้อยละ 25 ของน้ำหนักตัว ถ้าต้องการแยกข้อต่อ ต้องใช้ร้อยละ 50 ของน้ำหนักตัว ใช้เวลารักษา 20-40 นาที โดยประมาณข้อห้าม มีดังนี้ อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์, ภาวะไส้เลื่อน,หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง, มีอาการแสดงของ cauda equine และโรคปอดชนิด restrictive lung disease ควรประเมินผลการรักษาหลังจากรักษาไปแล้ว 5-6 ครั้ง กรณีดึงแล้วมีอาการไปส่วนปลายมากขึ้น ควรหยุดดึงเพราะอาจกระตุ้นให้อาการของโรคแย่ลง และควรตรวจการรับความรู้สึกกับกำลังกล้ามเนื้อซ้ำ การใช้เครื่องดึงในการรักษาไม่ว่าจะดึงคอ(Cervical traction)  หรือดึงหลัง(Lumbar traction) ควรปรึกษาแพทย์ หรือนักกายภาพบำบัด ให้ตรวจถึงสาเหตุของโรคให้แน่ชัดก่อนเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และลดการบาดเจ็บ หรือกระตุ้นอาการอื่นๆ จากการใช้เครื่อง

Can using a traction machine really cure disease?

Many of you may have had the opportunity to use or have seen a traction device, a physical therapy device in a clinic that uses a neck traction. and after What does this machine help with? What symptoms can be done or not, let’s see.
Traction is the use of force to stretch tissues, separate joints or bones.
by the force acting must be large and long enough in the right direction to counteract the body’s resistance in the opposite direction.
Using a counterweight or using a traction machine which the use of the machine can be adjusted to continuously pull or can switch to rest There are two types of traction machines: Cervical

แหล่งอ้างอิง
1. อ.พญ.ปรัชญพร คำเมืองลือ. คู่มือการเรียนดการสอน เรื่อง เครื่องมือทางกายภาพบำบัด (Physical modality). ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
2. Brault JS, Kappler RE, Grogg BE. Manipulation, traction and massage. Physical medicine and rehabilitation 3rd ed. China:Elsevier; 2007. P.437-57.

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

Scroll to Top