รู้จักกับ “กายภาพบำบัด”

รู้จักกับ “กายภาพบำบัด”

การ กายภาพบำบัด ในปัจจุบันมีความแพร่หลาย เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก และไม่เข้าใจว่า กายภาพบำบัด คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร สามารถช่วยอะไรเราได้บ้าง ทุกคนคงอยากรู้กันแล้ว เรามาทำความรู้จักกับกายภาพบำบัดกันเลย

กายภาพบำบัดคือ ศาสตร์ฟื้นฟูสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและใช้อุปกรณ์พิเศษ เพื่อรักษาผู้ป่วยให้กลับมาเคลื่อนไหวตามปกติได้มากที่สุด เน้นการบำบัดฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยต่างๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมกับการออกกำลังกาย หรือใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดที่เหมาะสมสำหรับอาการนั้นๆ

กายภาพบำบัดเหมาะกับใครบ้าง

  1. ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น มีอาการปวดตึง เมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เข่า ข้อเท้า หลัง 

  2. ระบบประสาท เช่น ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ 

  3. ระบบทรวงอกและหัวใจ เช่น การหายใจหอบเหนื่อย มีเสมหะ 

  4. กายภาพบำบัดในเด็ก เช่น ในเด็กที่มีความผิดปกติของสมอง มีพัฒนาการช้ากว่าปกติ

  5. กายภาพบำบัดในผู้สูงอายุ 

  6. กายภาพบำบัดทางการกีฬา 

วิธีการทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษาและฟื้นฟูอาการป่วยมีหลายประเภท ซึ่งประกอบด้วยการออกกำลังกาย  เทคนิคบำบัดด้วยมือ การฝึกผู้ป่วย วิธีรักษาพิเศษ และวิธีบำบัดอื่น ๆ แต่ละวิธีมีรายดังละเอียด ดังนี้

1.การออกกำลังกาย โดยทั่วไปแล้ว การทำกายภาพบำบัดมักเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย เนื่องจากการทำกายภาพบำบัดมีรูปแบบการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ อาการป่วย หรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ รวมทั้งช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ

2.เทคนิคบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy) วิธีนี้คือการทำกายภาพบำบัดด้วยมือ เพื่อช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการเจ็บปวด และเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย เทคนิคบำบัดด้วยมือประกอบด้วย

 -นวด นักกายภาพบำบัดจะนวดให้ผู้ป่วย โดยออกแรงกดลงไปตามร่างกาย การนวดจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพิ่มการไหลเวียนเลือด และลดอาการเจ็บปวด

-ขยับข้อต่อ (Mobilization) ผู้ป่วยที่เนื้อเยื่อเกิดอาการตึงหรือข้อติด จะได้รับการขยับข้อต่อโดยนักกายภาพบำบัดจะพิจารณากระดูกและข้อต่อ และบิด ดึง หรือดันกระดูกและข้อต่อให้กลับเข้าตำแหน่งช้า ๆ การขยับข้อต่อจะช่วยให้เนื้อเยื่อที่อยู่รอบข้อต่อตึงน้อยลง รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นและจัดกระดูกให้อยู่ในแนวมากขึ้น

-ดัดข้อต่อ (Manipulation) นักกายภาพบำบัดจะออกแรงกดไปที่ข้อต่อ โดยอาจใช้มือหรืออุปกรณ์พิเศษ นักกายภาพบำบัดจะค่อย ๆ ดัดข้อ หรือดัดข้อต่ออย่างรวดเร็ว รวมทั้งอาจลงน้ำหนักเบาหรือแรงเพื่อดัดข้อต่อแตกต่างกันอย่างระมัดระวัง

3.การฝึกผู้ป่วย ผู้ที่เข้ารับการทำกายภาพบำบัดจะได้รับการฝึกเคลื่อนไหวร่างกายด้วยการออกกำลังกาย เพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ฝึกใช้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยในการเคลื่อนไหว เช่น การใช้ไม้ค้ำยันหรือเก้าอี้วีลแชร์ ฝึกทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย 

4.ประคบเย็น การประคบเย็นด้วยน้ำแข็งจะช่วยบรรเทาอาการปวด บวม และอักเสบจากการได้รับบาดเจ็บ เช่น โรคข้ออักเสบ 

5.ประคบร้อน ผู้ที่มีอาการข้อต่อติดแข็งจากโรคข้อเข่าเสื่อมหรือขยับร่างกายไม่ได้ ควรประคบร้อน เพื่อให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนคลายตัวและมีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยง 

6.รักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound Therapy) วิธีนี้จะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงบรรเทาอาการกล้ามเนื้อกระตุก ช่วยคลายกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย บรรเทาอาการปวดและอักเสบ กระตุ้นให้อาการป่วยหายเร็วขึ้น

7.กระตุ้นด้วยไฟฟ้า (Electrical Stimulation) วิธีนี้จะใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นการทำงานของร่างกาย โดยใช้กระแสไฟฟ้าระดับต่ำรักษาอาการเจ็บปวด หรือกระตุ้นกล้ามเนื้อให้บีบตัวกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ

8.วารีบำบัด (Hydrotherapy) วิธีนี้คือการรักษาโรคและดูแลสุขภาพด้วยการทำกิจกรรมอยู่ในน้ำ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การออกกำลังในน้ำ (Water Exercise) วารีบำบัดจะใช้รักษาผู้ที่ป่วยโรคข้อเสื่อม ประสบภาวะปวดกล้ามเนื้อ เอ็น หรือเกิดอาการปวดหลัง

อยากทำกายภาพบำบัดต้องไปที่ไหน ในปัจจุบันการกายภาพบำบัดแพร่หลายมากยิ่งขึ้น หลากหลายรูปแบบตามปัญหาของผู้ที่ต้องการทำกายภาพบำบัด ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล คลินิก หรือการกายภาพบำบัดที่บ้าน สามารถเลือกได้ตามวัตถุประสงค์ ความเหมาะสม และปัญหาในแต่ละบุคคล

การกายภาพบำบัดมีความสำคัญอย่างมาก ในการส่งเสริมการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ช่วยลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง สามารถกลับมาช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนี้กายภาพบำบัดยังสามารถป้องกันการเกิดโรคต่างๆตามมาได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อมีปัญหาต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญ ให้ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มีความเหมาะสม

 

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

 

อ้างอิง

1.med.cmu.ac.th, เครื่องมือทางกายภาพบำบัด. สืบค้นวันที่ 05/08/2566. จากเว็บไซต์

(https://w1.med.cmu.ac.th/rehab/images/Study_guide/10_1%20Physical%20modalities_PK.pdf).

2.พญ.พิชามญชุ์ คณิตานุพงษ์, ความเย็นบำบัด (Therapeutic cold or Cryotherapy). สืบค้นวันที่ 05/08/2566. จากเว็บไซต์ (https://meded.psu.ac.th/binlaApp/class05/388_571_2/Physical_modalities/index3.html).

3.science.cmru.ac.th, วารีบำบัด). สืบค้นวันที่ 05/08/2566. จากเว็บไซต์ (http://www.science.cmru.ac.th/sciblog_v2/blfile/102_s190315044431.pdf).

4.กายภาพบำบัด ช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างไร. สืบค้นวันที่ 05/08/2566. จากเว็บไซต์ (https://www.pobpad.co/กายภาพบำบัด-ช่วยฟื้นฟูส)

 

Get to know “Physical Therapy”

Physical therapy is now widespread. Become more known But there are still many people who still don’t know. and do not understand what physical therapy is and how important it is What can we help you with? Everyone probably wants to know. Let’s get to know physical therapy.
Physical therapy is The science of restoring health through exercise and using special equipment. In order to maintain the patient’s ability to return to normal movement as much as possible. Emphasis on treatment and rehabilitation of various illnesses. By changing behavior together with exercise. or use appropriate physical therapy tools for that symptom
Who is physical therapy suitable for?
Musculoskeletal system, such as pain and stiffness Muscle aches Pain in various joints, whether it be knees, ankles, back.
Nervous system, such as in stroke patients who have muscle weakness.
Chest and heart system, such as labored breathing, phlegm.
Physical therapy in children, such as in children with brain disorders Development is slower than normal
Physical therapy for the elderly
sports physical therapy

โทร.
Scroll to Top