การรักษาด้วยการ กระตุ้นไฟฟ้า สำคัญอย่างไรในผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง

การรักษาด้วยการ กระตุ้นไฟฟ้า สำคัญอย่างไรในผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง

การรักษาด้วยการ กระตุ้นไฟฟ้า สำคัญมากน้อยเพียงใด ไปดูกันค่ะ โดยปกติแล้ว ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองเมื่อเกิดรอยโรคขึ้นที่สมองจะมีปัญหาต่างๆ ที่รบกวนหรือทำให้การใช้ชีวิตชีวิตประจำวันในปกติมีความยากลำบากมากขึ้น เช่น การเคลื่อนไหวย้ายตัวที่ไม่สามารถทำได้ตามปกติ เนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง หรือ แรงตึงตัวของกล้ามเนื้อที่มีมากเกินไป , การรับรู้ความรู้สึกต่างๆหายไปหรือรับรู้ความรู้สึกได้น้อยลงซึ่งจะส่งผลต่อการทรงตัว การรับรู้สัมผัสวัตถุและสิ่งของต่างๆ เป็นต้น การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า เป็นวิธีการรักษาทางกายภาพบำบัดรูปแบบหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยหลอดเลือดสมองในปัญหาของผู้ป่วยที่มีอาการของกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง จนทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ซึ่งวันนี้ทาง ReBRAIN จะมาพูดถึงการรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าว่าสามารถทำให้ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองฟื้นตัวได้อย่างไร

การรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าเป็นการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าโดยจะกระตุ้นผ่านได้ 2 ทางคือ 1. กระตุ้นผ่านทางผิวหนังโดยใช้ขั้วกระตุ้นที่ผิวหนัง (surface electrode)และ 2. กระตุ้นแบบฝังขั้วกระตุ้นเข้าไปในร่างกาย (implanted electrode) ในบริเวณของกล้ามเนื้อที่ยังมีเส้นประสาทมาเลี้ยงอยู่หรือสามารถใช้กระตุ้นกล้ามเนื้อที่ไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ด้วยเช่นกัน ในผู้ป่วยเส้นเลือดสมองจะมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการที่ไม่มีการสั่งการจากสมองมาควบคุมการหดตัวหรือคลายตัวของกล้ามเนื้อได้เองจนเกิดภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบในที่สุด

ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ ในผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง,ช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ใหม่ของกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานจากภาวะหลอดเลือดสมอง,สามารถช่วยเพิ่มการการไหลเวียนโลหิตโดยกล้ามเนื้อเกิดการเคลื่อนไหวจากการกระตุ้น, สามารถช่วยยับยั้งการหดตัวคายตัวของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติมากเกินไปได้ด้วย และนอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวและคลายตัวของกล้ามเนื้อได้จนสามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของร่างกายได้ เราจะเรียกการกระตุ้นแบบนี้ว่า การกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวที่มีประโยชน์ในการใช้งานได้จริง (functional electrical stimulation; FES)

สำหรับการรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าจะต้องมีข้อควรระวังได้แก่
1. ในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองที่ยังมีการรับความรู้สึกยังไม่ดีพอ
2. ผู้ป่วยที่มีรูปร่างผอมแห้ง
3. ผู้ป่วยที่มีผิวหนังแพ้ต่อการกระตุ้น
4. ผู้ป่วยที่ไม่สามารถสื่อสารได้

จากงานวิจัยของ Vafadar และคณะในปีค.ศ. 2015 ได้ศึกษาการกระตุ้นไฟฟ้าให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัวที่มีประโยชน์ในการใช้งานได้จริงในผู้ป่วยเส้นเลือดสมองในระยะเริ่มแรกหลังการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (น้อยกว่า 6 เดือน) ที่มีปัญหาข้อไหล่หลุด (shoulder subluxation) โดยกระตุ้นกล้ามเนื้อ supraspinatus และ posterior deltoid บริเวณหัวไหล่พบว่าการกระตุ้นด้วยรูปแบบดังกล่าวสามารถป้องกันหรือลดการเกิดการหลุดของข้อไหล่ข้างอัมพาตของผู้ป่วยได้ โดยการกระตุ้นต้องทา ประมาณ 0.5-7 ชั่วโมงต่อครั้ง 1-3 ครั้งต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 6 สัปดาห์

จากงานวิจัยของ Thibaut A และคณะในปีค.ศ. 2017 ได้ศึกษาการฝังตัวกระตุ้นที่บริเวณเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อกระดกปลายเท้า(peroneal nerve) เพื่อปรับปรุงการเดินของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่มีอาการข้อเท้าตกขณะเดิน(foot drop) ผลการศึกษาพบว่าอาการข้อเท้าตกขณะเดิน(foot drop) ของผู้ป่วยลดลงหลังได้รับการฝังตัวการกระตุ้น

ดังนั้นการรักษาด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าสามารถช่วยทำให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยหลอดเลือดสมองในเรื่องของการป้องกันการฝ่อลีบข้องกล้ามเนื้อได้ นอกจากยังสามารถช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อสามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติด้วย แต่การรักษาด้วยวิธีนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องทำการรักษาร่วมกับวิธีทางกายภาพบำบัดอื่นๆ เช่น การออกกำลังกายเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว(Motor control exercise) การออกกำลังเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strengthening exercise) เป็นต้น จึงเห็นผลการฟื้นตัวในการรักษาได้ดีที่สุด

 

What is the importance of electrical stimulation therapy in cerebrovascular patients?

How important is electrical stimulation therapy? Let’s see. Usually, cerebrovascular patients when a brain lesion occurs, there are various problems. that interferes with or makes it more difficult for normal everyday life, such as moving movements that cannot be normal Due to muscle weakness or excessive muscle tension, perceptions are lost or sensations are reduced,

which affects balance. Perception of touching objects and things, etc., electrical stimulation therapy. It is a form of physiotherapy that can be used to treat cerebrovascular disease in patients with muscle weakness. Until making it impossible to move or use daily life normally. Today, ReBRAIN will talk about how electrical stimulation therapy can help stroke patients recover.

Electrical stimulation therapy is electrical stimulation that can be stimulated through two ways: 1. transcutaneous stimulation using surface electrodes and 2. implanted electrode stimulation. Areas of muscles where nerves are present or can be used to stimulate muscles that do not have nerves to supply muscles. In patients with cerebrovascular disease, there is a problem of muscle weakness due to the lack of a command from the brain to control the contraction or relaxation of the muscles on their own, eventually leading to muscle atrophy.

 

 

References:

 

  1. THIBAUT, A., MOISSENET, F., DI PERRI, C., SCHREIBER, C., REMACLE, A., KOLANOWSKI, E., CHANTRAINE, F., BERNARD, C., HUSTINX, R., TSHIBANDA, J. F., FILIPETTI, P., LAUREYS, S. & GOSSERIES, O. 2017. Brain plasticity after implanted peroneal nerve electrical stimulation to improve gait in chronic stroke patients: Two case reports. NeuroRehabilitation, 40, 251-258.
  2. VAFADAR, A. K., COTE, J. N. & ARCHAMBAULT, P. S. 2015. Effectiveness of functional electrical stimulation in improving clinical outcomes in the upper arm following stroke: a systematic review and meta-analysis. Biomed Res Int, 2015, 729768.

    อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่
    FACEBOOK :: ReBRAIN
Scroll to Top