ยืดกล้ามเนื้อ สำคัญกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร

ยืดกล้ามเนื้อ สำคัญกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร

ยืดกล้ามเนื้อ นั้นสำคัญกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองอย่างไร ผู้ป่วย STROKE มักมีอาการอ่อนแรงของแขนขาครึ่งซีก สูญเสียความสามารถในการทรงตัว รวมถึงสูญเสียความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน ด้วยสาเหตุดังกล่าวผู้ป่วยและผู้ดูแลมักจะมองหาการดูแลหรือรักษาให้ตัวผู้ป่วยนั้นฟื้นตัวได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยในปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองก็มีหลากหลาย เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(Transcranial Magnetic Stimulation-TMS) และกายภาพบำบัด เป็นต้น

กายภาพบำบัดถือเป็นการรักษาที่ได้รับการยอมรับและมีประสิทธิภาพ โดยการรักษาทางกายภาพบำบัดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองนั้นมีเทคนิคหลากหลายที่ต้องได้รับการออกแบบโดยนักกายภาพบำบัดให้จำเพาะกับผู้ป่วยแต่ละคนที่มีพยาธิสภาพแตกต่างกัน ทั้งการฝึกทรงตัวในท่านั่งหรือยืน การฝึกเดินโดยปรับรูปแบบการเดินให้เหมาะสม รวมถึงการฝึกการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ซึ่งพื้นฐานการฝึกทั้งหมดอยู่ภายใต้การออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังกายก็จะมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น หากต้องการลดความตึงตัวหรือลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อก็ควรออกกำลังกายด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching exercise) ซึ่งวันนี้ ReBRAIN จะมาให้ความรู้กันว่าการออกกำลังกายยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching exercise) คืออะไร และควรทำอย่างไร
การยืดกล้ามเนื้อ (Stretching exercise) คือ การที่มีแรงจากภายในหรือภายนอกของร่างกาย มาทำให้กล้ามเนื้อเกิดการยืดยาวออก ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ถูกยืดกล้ามเนื้อรู้สึกตึงบริเวณที่กล้ามเนื้อมีการยืดยาวออก

ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ

  1. เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับข้อต่อรวมถึงการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ
  2. เป็นการพัฒนาระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ทำให้การออกกำลังกายได้ผลดียิ่งขึ้น
  3. ช่วยในผ่อนคลายและลดอาการตึง อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ
  4. ช่วยเพิ่มมุมในการเคลื่อนไหวของข้อต่อและกล้ามเนื้อ
  5. ช่วยพัฒนาความยืดหยุ่นหรือความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อ

หลักปฏิบัติทั่วไปในการยืดกล้ามเนื้อ

  1. ควรยืดเหยียดค้างไว้ประมาณ 10-30 วินาที เพื่อทำให้กล้ามเนื้อค่อยๆ เหยียดยาวขึ้น อย่างช้า ๆ
  2. ควรยืดเหยียดด้วยความนุ่มนวลและค่อยๆ เพิ่มขึ้น อย่ากระตุกหรือกระชาก
  3. ยืดเหยียดจนถึงจุดที่เริ่มรู้สึกตึงกล้ามเนื้อ ถ้ายืดเหยียดจนเจ็บแสดงว่าออกแรงดึง หรือดันมากเกินไป
  4. ควรหายใจอย่างสม่ำเสมอไม่ควรกลั้นหายใจ
  5. ควรปฏิบัติซ้ำอย่างน้อย2-3ครั้งในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อในแต่ละท่า เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อและเพิ่มความยืดหยุ่นตัวของกล้ามเนื้อ
  6. ควรจัดท่าการยืดเหยียดกล้ามเนื้อในแต่ละท่าให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อสูงสุด
  7. ควรใช้แรงน้อย ๆ แต่นาน ดีกว่าใช้แรงมาก แต่ทำด้วยเวลาสั้นๆ

จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายด้วยการยืดกล้ามเนื้อนั้นมีส่วนสำคัญต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมอง เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายในการฝึกการทำกิจกรรมต่างๆต่อไป ทั้งนี้ท่าทางในการยืดกล้ามเนื้อแต่ละมัด ก็ควรได้รับการออกแบบโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อให้มีความเฉพาะเจาะจงและมีประสิทธิภาพต่อการรักษามากยิ่งขึ้น

Benefits of stretching exercises

1. To prevent harm to joints, including muscle injuries.
2. It is the development of various functions of the body to be more efficient. make exercise more effective
3. Helps to relax and reduce tension. muscle spasms
4. Improves the angle of movement of joints and muscles.
5. Help develop flexibility or flexibility of muscles.

General principles of stretching

1. Should stretch and hold for 10-30 seconds to make the muscles gradually slowly stretched out
2. Stretches should be stretched softly and gradually increasing, not jerking or jerking.
3. Stretch until the point where the muscles start to feel tight. If you stretch until it hurts, it means you’re pulling. or too much pressure
4. You should breathe regularly, do not hold your breath.
5. You should repeat this practice at least 2-3 times in each stretching exercise. To increase the mobility of the joints and increase the flexibility of the muscles.
6. Should arrange the stretching position of each muscle correctly. for maximum efficiency in stretching muscles
7. It’s better to use less force but for a long time. It’s better than using a lot of force. but do it for a short time

แหล่งอ้างอิง

  • เสมอแข วิบูลย์พานิช. การฟื้นฟูสมรรถภาพขั้นพื้นฐาน ด้านกายภาพบำบัดในกลุ่มผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงและผู้ป่วยทางระบบประสาท: กลุ่มงานกายภาพบำบัด โรงพยาบาลราชบุรี. มกราคม 2562

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

Scroll to Top