รอก กายภาพบำบัด มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด
ถ้าหากพูดถึงอุปกรณ์ทางกายภาพบำบัด หลายๆคนคงได้ยินชื่อ รอก กายภาพบำบัด กันมาบ้างไม่มากก็น้อยเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆคนมักนึกถึงว่าช่วยป้องกันข้อไหล่ติด แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วเราสามารถประยุกต์ใช้รอกกายภาพฯ กับร่างกายได้หลากหลายส่วน และถ้าหากเราใช้งานไม่ถูกวิธีก็อาจไม่เกิดประโยชน์ หรืออาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ บทความนี้ ReBRAIN จะมาเล่าเกี่ยวกับรอก เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักและนำไปใช้อย่างถูกวิธี
รอกกายภาพบำบัด เป็นอุปกรณ์บริหารร่างกายอย่างหนึ่งที่ใช้หลักทางฟิสิกส์ สามารถทำให้เราออกแบบการออกกำลังกายที่ยากขึ้น หรือ ง่ายขึ้นก็ได้ พูดอย่างง่ายๆ ก็คือเราสามารถใช้อุปกรณ์ตัวนี้ปรับระดับความยากในการบริหารร่างกายให้เหมาะสมกับตนเองได้นั่นเอง
ประโยชน์ของรอกมีดังต่อไปนี้
- เหมาะสำหรับฝึกบริหารร่างกาย โดยเฉพาะ แขน , ขา
- เพิ่มกำลังกล้ามเนื้อ
- เพิ่มความทนทาน
- เพิ่มความยืดหยุ่น
- เพิ่มความสนุกในการออกกำลังกาย
ใครบ้างที่เหมาะจะใช้รอก
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ
- ผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวไม่สะดวก มักใช้ชีวิตอยู่บนเตียง
- คนที่มีปัญหาข้อไหล่ติด หรือต้องการป้องกันข้อไหล่ติด
- คนที่กำลังมองหาอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความสนุกในการออกกำลังกาย
ข้อควรระมัดระวังขณะใช้งาน
- เช็คการติดตั้งของอุปกรณ์ให้ปลอดภัย
- มีอาการปวดเพิ่มมากขึ้นขณะออกกำลังกาย
- เกิดการเคลื่อนไหวทดแทน (compensate movement) เช่น ยกแขนแล้วมีการยักบ่า หรือ เอียงตัว
- ไม่ขยับอย่างรวดเร็วจนเกินไป อาจเกิดการบาดเจ็บ
วิธีการใช้งาน
- เพิ่มความแข็งแรงของแขน/ขาด้านที่อ่อนแรง
- ให้พยายามขยับ แขน/ขาด้านที่อ่อนแรง ก่อนให้มากที่สุดก่อน แล้วจึงใช้แขน/ขาด้านที่อ่อนแรงช่วย
- ระดับความหนัก : อย่างน้อย 2-3 วัน/สัปดาห์
2-4 เซ็ต/วัน , จำนวนครั้งทำเท่าที่เริ่มมีอาการล้า (แนะนำประมาณ 8-12 ครั้ง)
- เพิ่มองศาการเคลื่อนไหว (ความยืดหยุ่นของข้อต่อ)
- ขยับแขน/ขาด้านที่มีปัญหาไปในองศาที่ไปได้น้อยแล้วค้างไว้
- ระดับความหนัก : ทำทุกวัน
- ถ้ามีอาการปวดมาก (High irritability Pain ≥ 7/10) , ค้าง 1-5 วินาที , 2-3 ครั้ง/วัน
- มีอาการปวดปานกลาง (Moderate irritability Pain 4-6/10) ค้าง 5-15วินาที , 3-5ครั้ง/วัน
- ไม่มีอาการปวด / อาการปวดน้อยมากๆ (Low irritability Pain ≤3/10) ค้าง 15-30 วินาที , 3-5ครั้ง/วัน
- เพิ่มความทนทานให้กับร่างกาย
- ขยับแขนหรือขยับขาในทิศทางต่างๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง หยุดพักเมื่อเกิดการล้า เหนื่อย หรือหอบ หรือถ้าเกิดอาการผิดปกติอื่นๆ ให้หยุดทำและปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด
ประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วยแรงต้าน (Resistance training)
การออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันไป การออกกำลังกายด้วยแรงต้าน (Resistance training) ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการออกกำลังกาย เป็นการทำงานของกล้ามเนื้อเพื่อที่จะเอาชนะแรงต้าน
โดยประโยชน์ที่ได้จาก การออกกำลังกายด้วยแรงต้าน (Resistance training) มีดังต่อไปนี้
- ขนาดของกล้ามเนื้อนั้นใหญ่ขึ้น กระชับขึ้น
- กล้ามเนื้อสามารถออกแรงได้มากขึ้น
- มีการพัฒนาด้านระบบประสาท (Neural adaptation)
- สมองส่วน Motor cortex
- Motor unit เกิดการพัฒนาของเซลล์ประสาทและเส้นใยกล้ามเนื้อที่เซลล์ประสาทมาควบคุมไปพร้อมๆ กัน
- บริเวณรอยต่อของเซลล์ประสาทกับเซลล์กล้ามเนื้อ (Neuromuscular junction) มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ทำให้มีขนาดที่กว้างขึ้น ทำให้เพิ่มพื้นที่ในการส่งสารสื่อประสาท Acetylcholine มากขึ้นด้วย พอสารสื่อประสาทส่งไปได้มากขึ้น การหดตัวของกล้ามเนื้อก็เกิดมากขึ้น
- เพิ่มการทำงานของ Muscle spindle (Neuromuscular reflex potentiation) ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวได้มากขึ้น เกิดแรงมากขึ้น
Ref : Haff, G., & Triplett, N. T. (2016). Essentials of strength training and conditioning. Fourth edition. Champaign, IL: Human Kinetics.
Reel physical therapy is more useful than you think.
If talking about physical therapy equipment Many people may have heard of the name hoist, physical therapy, more or less, it is a device that many people think of to help prevent shoulder stiffness. But I don’t really know Then we can apply the physical hoist. with a variety of body parts And if we use it incorrectly, it may not be useful. Or may cause injury. This article ReBRAIN will tell about the pulley. So that everyone can know and use it in the right way.
physical therapy hoist It is one of the exercise equipment that uses physics principles. It can make us design exercises that are harder or easier. put it simply That is, we can use this device to adjust the difficulty in exercising the body to suit ourselves.