ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองขยับแขนขาไม่ได้แล้วควรพา ออกกำลังกาย อย่างไร

ออกกำลังกาย ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่ขยับแขนขาไม่ได้แล้วควรทำอย่างไร

การ ออกกำลังกาย ในปัจจุบัน โรคหลอดเลือดในสมองถือเป็นโรคที่ส่งผลให้เกิดความพิการหรือเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนแรงของแขนขาครึ่งซีก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด สูญเสียความสามารถในการทรงตัว เป็นต้น โดยภาวะดังกล่าวควรได้รับการทำกายภาพบำบัดเพื่อทำการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายให้กลับมาใกล้เคียงปกติโดยเร็วที่ที่สุด

ระยะการดำเนินโรคของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองในช่วงแรกๆ ผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนแรงที่กล้ามเนื้อแขนขาครึ่งซีกแบบปวกเปียก ไม่สามารถควบคุมการทำงานแขนขาด้านที่มีพยาธิสภาพได้เลย ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวแขนขาในข้างที่มีพยาธิสภาพ เมื่อร่างกายผู้ป่วยขาดการขยับหรือเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลานาน สิ่งที่จะตามคือ ภาวะกล้ามเนื้อหดรั้งและตึงตัว ภาวะกล้ามเนื้อฝ่อลีบจากการไม่ได้ใช้งาน และภาวะข้อต่อยึดติด ซึ่งภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวสามารถป้องกันได้ด้วยการขยับร่างกายให้กับผู้ป่วยโดยใช้แรงจากนักกายภาพบำบัด หรือเรียกอีกชื่อว่า การออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ (Passive movement exercise)

การออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ (Passive movement exercise) คือ การใช้แรงจากภายนอกในการช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วย ซึ่งแรงกระทำจากภายนอก อาจจะเป็นแรงจากคน แรงจากเครื่องมือ รวมถึงแรงโน้มถ่วงของโลก การออกกำลังกายชนิดนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถทำการเคลื่อนไหวข้อต่อต่าง ๆได้ด้วยตนเอง เช่นผู้ป่วยไม่รับรู้สติ หรือผู้ป่วยที่อ่อนแรงกล้ามเนื้อแขนขา

ประโยชน์ของการออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ

  1. ป้องกันการยึดติดของข้อต่อ
  2. ลดภาวะหดรั้งของกล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มข้อ เส้นเอ็นข้อต่อ
  3. ช่วยคงสภาพความยืดหยุ่นของกล้ามเยื้อ
  4. ช่วยส่งเสริมและคงสภาพการไหลเวียนโลหิตบริเวณข้อต่อที่ทำการเคลื่อนไหว
  5. ช่วยส่งเสริมการรับความรู้สึกบริเวณข้อต่อที่ทำการเคลื่อนไหว
  6. ช่วยลดอาการปวดได้

หลักการออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ

  1. ช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อต่างๆควรทำด้วยความนุ่มนวล ไม่ควรผลัก ดัน หรือกระตุกข้อต่อ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะการฉีกขาดของกล้ามเนื้อ เอ็นหุ้มข้อ รวมถึงเนื้อเยื่อต่างๆได้
  2. ช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อต่างๆควรทำการยืดทีละน้อยเท่าที่มีอาการตึง และผู้ป่วยสามารถทนได้
  3. จำนวนครั้งในการออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ ทำท่าละประมาณ 10 – 20 ครั้ง วันละ 1-2 รอบ ทำประจำต่อเนื่องทุกวัน

จะเห็นได้ว่าการออกกำลังกายแบบช่วยทำการเคลื่อนไหวข้อต่อ (Passive movement exercise) มีบทบาทสำคัญกับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมองในระยะแรกๆ ขณะที่ผู้ป่วยยังไม่มีแรงที่จะทำการเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ซึ่งหากทิ้งปล่อยไว้จนเกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว ก็อาจทำให้การฟื้นตัวของผู้ป่วยช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นนอกจากนักกายภาพบำบัดที่มีบทบาทในการพาออกกำลังกายแล้ว ญาติหรือผู้ดูแลก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยออกกำลังกายขณะผู้ป่วยพักฟื้นอยู่ที่บ้าน

Exercise in patients with cerebrovascular disease who can’t move their arms and legs, what should i do?

Exercise Currently, cerebrovascular disease is one of the leading diseases that result in disability or death. And there is an increasing tendency that patients often have weakness of the hemispherical limbs, crooked mouth, slurred speech, loss of ability to balance, etc. This condition should be treated with physical therapy to restore physical function. Come as close to normal as possible.

Disease progression in early stroke patients Patients often have limp musculoskeletal weakness. inability to control the functioning of the limbs on the pathological side at all As a result, the patient loses the ability to move the limb in the pathological side. When the patient’s body lacks movement or movement for a long time What will be followed is muscle spasms and tightness muscle atrophy from inactivity and adhesion conditions Such complications can be prevented by moving the patient’s body with the force of a physical therapist. also known as Passive movement exercises

แหล่งอ้างอิง

  • เสมอแข วิบูลย์พานิช. การฟื้นฟูสมรรถภาพขั้นพื้นฐาน ด้านกายภาพบำบัดในกลุ่มผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงและผู้ป่วยทางระบบประสาท: กลุ่มงานกายภาพบำบัด โรงพยาบาลราชบุรี. มกราคม 2562

    อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

    FACEBOOK :: ReBRAIN

Scroll to Top