เทคนิค PNF กับการกระตุ้นการรับรู้ตำแหน่งร่างกายในผู้ป่วย Stroke
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มักเผชิญกับปัญหาการอ่อนแรงครึ่งซีก (muscle weakness), ความบกพร่องในการเคลื่อนไหว (motor impairment) และการรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (proprioception) ส่งผลให้เกิดการเสียสมดุล เคลื่อนไหวไม่คล่องตัว และเสี่ยงต่อการหกล้ม การฟื้นฟูทางกายภาพบำบัดจึงมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและรับรู้ตำแหน่งร่างกายได้ดีขึ้น หนึ่งในเทคนิคที่ใช้แพร่หลายและมีประสิทธิภาพคือ Proprioceptive Neuromuscular Facilitation (PNF)
PNF (Proprioceptive Neuromuscular Facilitation: PNF) เป็นเทคนิคกายภาพบำบัดที่อาศัยรูปแบบการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง (diagonal patterns) ร่วมกับการกระตุ้นจากประสาทสัมผัส ได้แก่
• การสัมผัส (tactile stimulation)
• การยืด (stretch)
• การต้านแรง (resistance)
ซึ่งช่วยเพิ่มการทำงานประสานกันของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ รวมถึงกระตุ้นการรับรู้ตำแหน่งร่างกาย
กลไกสำคัญของ PNF ต่อการรับรู้ตำแหน่งร่างกาย
1. การกระตุ้นตัวรับความรู้สึก (Proprioceptors stimulation)
• Muscle spindle: รับรู้การยืดและความเร็ว → PNF ใช้ stretch reflex กระตุ้นการเริ่มเคลื่อนไหว
• Golgi tendon organ (GTO): รับรู้แรงตึง → การใช้แรงต้านช่วยให้สมองแยกแยะทิศทางและแรงได้แม่นยำ
• Joint receptors: ถูกกระตุ้นด้วยการกด (compression), ดึง (traction) และการหมุน (rotation) → เพิ่มการรับรู้ทิศทางและตำแหน่งข้อ
2. รูปแบบการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง (Diagonal patterns)
• PNF ใช้ pattern D1 และ D2 ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวหลายระนาบ
• คล้ายกับกิจกรรมจริง เช่น การเอื้อมหยิบของ แต่งตัว เดิน → ทำให้สมองเรียนรู้การควบคุมที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน
3. การใช้แรงต้าน (Resistance)
• แรงต้านที่เหมาะสมช่วยให้ผู้ป่วยรับรู้ทิศทางการเคลื่อนไหว
• ส่ง feedback ผ่านระบบประสาทรับความรู้สึกกลับไปยังสมอง → ส่งเสริม kinesthetic sense
4. การกระตุ้นหลายช่องทางประสาทสัมผัส (Multisensory feedback)
• Manual contact: การสัมผัสของนักกายภาพ ช่วยบอกทิศทาง
• Verbal cue: คำสั่งเสียง เพิ่มการโฟกัสและควบคุมการเคลื่อนไหว
• Visual feedback: การใช้กระจก → ผู้ป่วยเห็นการเคลื่อนไหวของตนเอง → เพิ่ม proprioception
ตัวอย่างการประยุกต์ PNF ในผู้ป่วย Stroke
• แขน (Upper limb): ฝึก D1 flexion (เช่น เอื้อมหยิบของ) ร่วมกับแรงต้านเบา ๆ
• ขา (Lower limb): ฝึก D2 extension เพื่อเสริมการทรงตัวและก้าวเดิน
• Functional task: ประยุกต์กับการลุกจากเก้าอี้ การยืนทรงตัว หรือการเดิน
เทคนิค PNF เป็นวิธีฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพในผู้ป่วย Stroke โดยเฉพาะการกระตุ้น การรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (proprioception) ผ่านกลไกการกระตุ้น proprioceptors, การใช้แรงต้าน, การเคลื่อนไหวหลายทิศทาง และการรวมประสาทสัมผัสหลายช่องทาง เทคนิคเหล่านี้ช่วยเสริมความสัมพันธ์ของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้ผู้ป่วยมีสมดุล การเคลื่อนไหว และความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันดีขึ้น
Reference
1. Adler, S. S., Beckers, D., & Buck, M. (2014). PNF in Practice: An Illustrated Guide. Springer.
2. Sharman, M. J., Cresswell, A. G., & Riek, S. (2006). Proprioceptive neuromuscular facilitation stretching: Mechanisms and clinical implications. Sports Medicine, 36(11), 929–939.
3. Wang, R. Y., Chan, R. C., & Tsai, M. W. (2000). Functional outcomes of stroke patients with hemiplegia following proprioceptive neuromuscular facilitation therapy. Journal of Stroke and Cerebrovascular Diseases, 9(6), 322–326.
4. Küçük, F., Livanelioglu, A., & Tunca, Y. (2014). Effects of proprioceptive neuromuscular facilitation techniques on gait parameters in chronic stroke. Neurology and Rehabilitation, 34(4), 311–318.