การป้องกันและดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยใส่ สายสวนปัสสาวะ จากทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ

การป้องกันและดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยใส่ สายสวนปัสสาวะ จากทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ

        การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ มีสาเหตุโดยทั่วไปเกิดจากเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารลุกลามมายังท่อปัสสาวะ แต่ทราบหรือไม่..? ว่ากลุ่มผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้สายสวนปัสสาวะ เพื่อการขับถ่ายนั้นล้วนต้องแบกรับความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า “การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วย ทำให้ระยะเวลาในการรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายใช้เวลามากขึ้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว พร้อมเรียนรู้วิธีการดูแลและป้องกันความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะไปพร้อมกันนะครับ

        การเกิดภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่พบในผู้ป่วยที่ใช้ สายสวนปัสสาวะ นั้นสามารถพบได้จากกรณีที่ผู้ป่วยมีการพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ประกอบกับอีกหลายปัจจัย เช่น การได้รับยาปฏิชีวนะหลายชนิด, ความผิดปกติในโครงสร้างของระบบทางเดินปัสสาวะ, การปล่อยให้ สายสวนปัสสาวะ คาอยู่กับตัวผู้ป่วยเป็นเวลานาน, ความสะอาดและความถูกต้องของวิธีการ สวนสายปัสสาวะ เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุซึ่งจะมีปัจจัยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท สรีระ ฯลฯ เข้ามามีส่วนทำให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้มากยิ่งขึ้น ผลกระทบที่ตามมาหากเกิดภาวะดังกล่าวกับผู้สูงอายุก็จะมีมากกว่าผู้ป่วยปกติ ใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูมากกว่าปกติอีกด้วย ทั้งนี้ การเกิดภาวะดังกล่าวในผู้สูงอายุมักพบได้กว่าร้อยละ 25 – 50 และพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

        การเกิดภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นสิ่งที่ต้องระวังและไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการรักษาแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงและเกิดเป็นภาวะ “การติดเชื้อในกระแสเลือด” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการเสียชีวิตได้ 

        ดังนั้น สิ่งเล็กๆที่ง่ายที่สุดที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยคือ “การสังเกตอาการ” เรามาดูกันครับว่าอาการเบื้องต้นอะไรบ้างที่กำลังบ่งบอกว่าผู้ป่วยนั้นอาจมีภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

        การสังเกตอาการเบื้องต้นของภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

  1. ไข้ หนาวสั่น
  2. ปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขุ่นมีตะกอน ปัสสาวะปริมาณน้อยหรือปัสสาวะติดขัด
  3. มีอาการปวดท้องบริเวณเหนือหัวหน่าว

และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว เราจะมาแนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วยที่ใช้สายสวนปัสสาวะและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะกันครับ

        การดูแลผู้ป่วยและป้องกันผู้ป่วย ที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ

  1. ทุกครั้งที่ทำการสวนปัสสาวะจะต้องทำอย่างถูกต้องด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ และผู้ทำต้องเป็นบุคลากรที่มีความชำนาญในการใส่สายสวนปัสสาวะ
  2. ดูแลระบบการระบายน้ำของสายสวนปัสสาวะให้เป็นรูปแบบของระบบปิด
  3. หมั่นดูแลความสะอาดบริเวณรูเปิดท่อปัสสาวะอยู่เสมอ รวมถึงอวัยวะเพศและทวารหนักในกรณีหลังถ่ายอุจจาระ
  4. เมื่อใส่สายสวนปัสสาวะแล้ว ให้ยึดสายสวนปัสสาวะให้แน่นในตำแหน่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ
  5. ห้ามไม่ให้สายระบายปัสสาวะเกิดการอุดตัน ควรมีการจัดวางถุงรองรับปัสสาวะให้อยู่ในระดับต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะอยู่เสมอ
  6. เทปัสสาวะออกจากถุงรองรับปัสสาวะทุก ๆ 8 ชั่วโมง (หรือเทก่อนหากเป็นกรณีปัสสาวะเต็มถุง)
  7. เปลี่ยนถุงรองรับปัสสาวะทันทีเมื่อถุงรั่วหรือสกปรก
  8. หมั่นสอบถามอาการ ความเปลี่ยนแปลง หรือความผิดปกติของผู้ป่วยอยู่เสมอ

        อย่างไรก็ตาม การใส่สายสวนปัสสาวะนั้นควรกระทำเฉพาะเมื่อเกิดเวลาจำเป็นเท่านั้น และไม่ควรใส่สายสวนปัสสาวะไว้นานเกินความจำเป็น และถ้าหากเราดูแลการใส่สายสวนปัสสาวะได้ไม่ดีและไม่สะอาด จะส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดอาการติดเชื้อ ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายและฟื้นฟูได้เต็มที่ ส่งผลให้ระยะเวลาในการรักษาฟื้นฟูนานมากขึ้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงเรื่องของความสะอาด เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดกับผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่ใส่สายสวนปัสสาวะ

 

แหล่งอ้างอิง

  1. กำธร มาลาธรรม. (2548). การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะที่เกิดในโรงพยาบาล. ในสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย. ตำราโรคติดเชื้อ 2. กรุงเทพฯ: โฮลิสติกพับลิชชิ่ง.
  2. คณะอนุกรรมการประกันคุณภาพการดูแลผู้ป่วยคาสายสวนปัสสาวะ กพย. รพ.รร.6. (2561). การดูแลผู้ป่วยคาสายสวนปัสสาวะ. กองการพยาบาล รพ.รร.6. 
  3. สมหวัง ด่านชัยวิจิตร . (2536). วิธีป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล. กรุงเทพฯ : โครงการตำรา – ศิริราช

 คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล.

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

 

 

Scroll to Top