วิธีจัดการอาการ เกร็ง ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

วิธีจัดการอาการ เกร็ง ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

อาการ เกร็ง ของกล้ามเนื้อเป็นภาวะที่พบร่วมได้บ่อยในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและทำให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเอง ในการประกอบกิจวัตรประจำวันได้ยากลำบาก การรักษาเพื่อลดอาการ เกร็ง ของกล้ามเนื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้ป่วยมีความสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้โดยพึ่งพาผู้ดูแลให้น้อยที่สุด

 

การลด เกร็ง มีวิธีการอย่างไร

  1. การเหยียดยืดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ใช้หลักการเหยียดยืดเอ็นและกล้ามเนื้อที่หดเกร็งของ
    กล้ามเนื้อในทิศทางตรงกันข้ามทั้งส่วนแขนและขา โดยเริ่มจากการเหยียดข้อนิ้วมือส่วนต้น, ส่วนปลาย และข้อระหว่างข้อนิ้วมือและนิ้วมืออย่างช้า ๆ และค่อยๆยืดกล้ามเนื้อบริเวณแขน
  2. การจัดท่าควรจัดท่าในลักษณะที่ผ่อนคลาย ไม่ควรจัดในท่าที่กระตุ้นในเกิดอาการ เกร็ง ขณะนอน ควรอยู่ในลักษณะนอนหงาย หรือนอนตะแคงไม่ทับด้านที่อ่อนแรงควรเหยียดแขนและขาออกให้สุดโดยมีหมอนรองไม่ควรนำหมอนมารองใต้ฝ่าเท้าด้านที่อ่อนแรงของผู้ป่วยเพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดอาการเกร็งของขา
  3. อุปกรณ์พยุงข้อมือและมือ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เกิดการค้างของข้อ มือและนิ้วมือโดยข้อมืออยู่ในลักษณะเหยียดตรงและนิ้วมือเหยียดกางออกเพื่อลดการหด เกร็ง ของกล้ามเนื้อบริเวณมือในกรณีที่มีอาการ เกร็ง จนเกิดการหดรั้งของกล้ามเนื้อบริเวณ

4.การใช้ความร้อนและความเย็น

ความร้อนมีผลต่อการเพิ่มความยืดหยุ่น(elasticity) ของกล้ามเนื้อ การใช้ความร้อนสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Ultrasound,paraffin, fluidotherapy, superficial heat หรือ

whirlpool ผลของการใช้ความร้อนมักจะอยู่ได้แค่ระยะสั้นๆ และมักใช้ร่วมกับการยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย ความเย็นมีผลยับยั้งปฏิกิริยาการ ตอบสนองของ reflex ที่ทำให้เกิดอาการเกร็ง

 

การใช้ความเย็นทำได้หลายวิธี

ได้แก่ quick icing technique, prolonged cooling หรือ evaporatingspray ซึ่งผลของการใช้ความเย็นมักอยู่ได้แค่ระยะสั้นๆไม่เกิน 1 ชั่วโมง จึงมักใช้ร่วมกับวิธีลดเกร็งด้วยการยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายเช่นเดียวกับการใช้ความร้อน

 

5.การกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า

การใช้ TENS (Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation) มีผลลด nociceptive pain ผ่าน ทาง pain gate-control theory ดังนั้นจึงสามารถลดการเกิดอาการเกร็งได้ นอกจากนี้การใช้ FES(Functional Electrical Stimulation) ยังสามารถช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อได้โดยการกระตุ้น antagonist muscle

 

6.การใช้ยาลดเกร็งชนิดฉีดเฉพาะที่

ผู้ป่วยที่มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อเฉพาะบางมัดซึ่งขัดขวางการประกอบกิจวัตรประจำวัน เช่น กล้ามเนื้อมือหรือแขนที่มีอาการเกร็งทำให้ไม่สามารถตักอาหารหรือใช้มือหยิบจับสิ่งของได้ตามต้องการ หรืออาการเกร็งของแขนและมือที่เป็นมากจนรบกวนการเดิน อาการเกร็งของกล้ามเนื้อที่ใช้ บิดข้อเท้าเข้าด้านในทำให้เดินลำบากสามารถเลือกใช้ยาลดเกร็งแบบฉีดเฉพาะที่ ได้แก่ alcohol, phenolหรือ botulinum toxin เพื่อควบคุมการออกฤทธิ์ของ ยาลดเกร็งให้มีผลเฉพาะกล้ามเนื้อมัดที่ต้องการ การฉีดยา botulinum toxin เป็นวิธีการ ฉีดยาเพื่อลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ

โดยการ ฉีด botulinum toxin ที่มีฤทธิ์ขัดขวางการหลั่ง acetylcholine (Ach) ออกจาก presynapticmembrane ของ neuromuscular junction ทำให้ ไม่เกิด depolarization จึงทำให้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อลดลง โดยวิธีการฉีดยาจะทำการฉีดลงในตำแหน่งของมัดกล้ามเนื้อโดยตรง เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายและปลอดภัยกว่าการฉีดยาลดเกร็งด้วยวิธีการอื่น การใช้ยาฉีดลดเกร็งเฉพาะที่จึงมีผลดีกับผู้ป่วย คือไม่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม หรืออาการอ่อนแรงของ กล้ามเนื้อบริเวณอื่นและไม่มีผลข้างเคียงที่สำคัญต่อระบบร่างกายอื่นๆ นอกจากผลข้างเคียงเฉพาะที่ เล็กน้อย เช่น อาการปวด ชา หรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณที่ฉีดยา

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

Ref

Cheung J, Rancourt A, Di Poce S, Levine A,Hoang J, Ismail F, et al. Patient-identifiedfactors that influence spasticity in peoplewith stroke and multiple sclerosis receivingbotulinum toxin injection treatments.Physiother Can. 2015; 67: 157-66.

Shin DS, Song R, Shin EK, Seo SJ, Park JE,Han SY, et al. Effects of passive upperarm exercise on range of motion, musclestrength, and muscle spasticity in hemiplegic patients with cerebral vascular disease. J Korean Acad Nurs. 2012; 42: 783-90.

จักรกริช กล้าผจญ. การออกกำลังกายเพื่อการบำบัดรักษา. ใน : เวชศาสตร์ฟื้นฟูสำหรับเวชปฏิบัติทั่วไป.พิมพ์ครั้งที่1

 

How to manage spasticity in patients with cerebrovascular disease

 

Muscle spasticity is a common condition in stroke patients and causes patients to help themselves. Difficulty in carrying out daily activities Treatment to reduce muscle spasticity is therefore an important factor in making rehabilitation of stroke patients effective and helping the patient to be able to return to daily life with minimal reliance on caregivers.

 

How is it possible to reduce contractions?

Stretching muscles and tendons Use the principle of stretching the ligaments and muscles that are contracted.
Muscles in opposite directions in both arms and legs Begin by slowly stretching the proximal, distal and inter-knuckle joints of the fingers and gradually stretching the muscles in the forearm.
Posture should be arranged in a relaxed manner. Should not be placed in a position that stimulates contraction while sleeping. Should be in a supine position. Or lie on your side, not on the weak side. Arms and legs should be stretched out as far as possible with pillows. Pillows should not be placed under the feet on the weak side of the patient because this will stimulate leg spasms.
Wrist and hand support equipment It is a device that helps to cause the joint to remain stuck. Hands and fingers with the wrists straight and the fingers spread apart to reduce contraction of the muscles in the hand in cases of contraction of the muscles in the area.

 

Scroll to Top