ฝึกเดินเข้าจังหวะด้วยพลังของเสียงเพลง (Rhythmic Auditory Stimulation: RAS)

ฝึกเดิน เข้าจังหวะด้วยพลังของเสียงเพลง (Rhythmic Auditory Stimulation: RAS)

ทุกคนเคยสงสัยหรือไม่ ว่าทำไมการรักษา การ ฝึกเดิน แบบกลุ่มถึงนิยมนำเสียงเพลงมาใช้ร่วมด้วย เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะว่าเสียงเพลงสามารถสร้างความสนุกสนานเพลิด และทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันได้ อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญคือ เสียงเพลงสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองได้นั่นเอง การฝึกเดินโดยการกระตุ้นผ่านเสียง (Rhythmic Auditory Stimulation: RAS) จึงถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นที่การควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อผ่านการสั่งการของระบบประสาท (Motor function) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่ช่วยแก้ไขปัญหาการเดินในผู้ที่ปัญหาทางระบบประสาทได้ เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Cerebrovascular accidents), การบาดเจ็บบริเวณสมอง (Traumatic brain injury), โรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease) และโรคสมองพิการ (Cerebral palsy) เป็นต้น

RAS คือ เทคนิคการบำบัดด้วยเสียงในทางประสาทวิทยา วิธีการคือให้ผู้ป่วย ฝึกเดิน ปรับจังหวะการก้าวหรือการเคลื่อนไหวให้ตรงกับจังหวะของดนตรี ซึ่งสามารถเลือกเสียงได้จากเมทโทรโนม หรือจากเพลงต่างๆตามจังหวะที่ต้องการ โดยจังหวะของเสียงเพลงจะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูในผู้ป่วยที่มีปัญหาการเดิน ซึ่งเป็นได้ทั้งตัวเริ่มการเคลื่อนไหว หรือกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ผ่านระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินเสียง ทำให้สมองในหลายบริเวณมีการตอบสนองเพื่อประมวลผลจังหวะของเสียงเพลง ได้แก่ คอร์เทกซ์ส่วนหน้า (Prefrontal cortex), ซีรีเบลลัม (Cerebellum) และ เบซัลแกงเกลีย (Basal ganglia) เหนี่ยวนำให้เกิดการกระตุ้นโครงข่ายประสาท รวมถึงโครงสร้างสมองส่วนลึกที่มีผลต่อเรื่องอารมณ์ ความจำ และการรับรู้การเข้าใจก็ถูกกระตุ้นผ่าน RAS ได้เช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับศึกษาจำนวนมากเกี่ยวกับพื้นฐานทางประสาทที่เชื่อมโยงกับดนตรี ชี้ให้เห็นว่าการรับรู้จังหวะมีความเชื่อมโยงกับสมองที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวอย่างมาก

จากงานวิจัยที่ศึกษาในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดเลือดสมองแนะนำให้ใช้การกระตุ้นการเดินผ่านเสียง (RAS) ร่วมกับการทำกายภาพอื่นๆ ให้การรักษาดีกว่าการทำกายภาพเพียงอย่างเดียว และเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ทำกายภาพเพียงอย่างเดียว พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการกระตุ้นด้วย RAS แสดงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยทำให้ความสามารถในการเดิน และความสามารถในการเคลื่อนย้ายตัวดีขึ้น โดยความสามารถในการเดินที่เพิ่มขึ้นสามารถวัดผลได้จากตัวแปรการเดินต่างๆ ได้แก่ ความยาวก้าว (Stride leghth), ความเร็วการก้าว (Gait speed) และความถี่การก้าว (Cadence) ซึ่งตัวแปรการเดินเหล่านี้สามารถนำมาบ่งบอกถึงความสามารถด้านการสั่งการการเคลื่อนไหวต่างๆ รวมถึงสามารถนำมาใช้ในการทำนายความเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

การฟื้นฟูการเดินในผู้ที่มีความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหวมีหลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยม และมีหลักฐานทางด้านงานวิจัยสนับสนุนถึงผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพคือ การฝึกเดินโดยการกระตุ้นผ่านเสียง (Rhythmic Auditory Stimulation: RAS) โดยสามารถเลือกใช้เมโทรโนม หรือเพลงในจังหวะต่างๆ เพื่อใช้เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ป่วยสามารถปรับจังหวะการเดินตามจังหวะของเสียงเพลงที่ได้ยินผ่านระบบประสาท ทำให้มีการกระตุ้นโครงข่ายประสาทในบริเวณต่างๆของสมอง ซึ่งผลการรักษาสามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการเดิน โดยวัดผลจากตัวแปรการเดินต่างๆ และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลดีด้านอารมณ์ การรับรู้การเข้าใจ และความจำอีกด้วย

Rhythmic Auditory Stimulation (RAS) Walking Training

Have you ever wondered why music is so popular in group walking therapy? One reason is that music can be fun and interactive. Another important reason is that music can stimulate brain activity. Rhythmic Auditory Stimulation (RAS) walking training has become increasingly popular in recent years, focusing on controlling muscle movement through motor control. This treatment method can help correct walking problems in people with neurological conditions, such as cerebral vascular accidents, traumatic brain injuries, Parkinson’s disease, and cerebral palsy.

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

 เอกสารอ้างอิง

Auditory Rhythmic Stimulation for Gait Training. Retrieved July 12, 2025.  from. https://www.physio-pedia.com/Auditory_Rhythmic_Stimulation_for_Gait_Training.

Samira G, et al. 2021. Effects of a Music-Based Rhythmic Auditory Stimulation on Gait and Balance in Subacute Stroke.

Soonhyum L, et al. 2018. Gait Training with Bilateral Rhythmic Auditory Stimulation in Stroke Patients: A Randomized Controlled Trial.

Topoti Baruah and Shantala Hegde. 2025. Impact of Rhythmic Auditory Stimulation on Neurocognition: Proposed Mechanism of Action of Rhythmic Auditory Stimulation on Neurocognitive Abilities.

Scroll to Top