กิจกรรมบำบัด และ Alzheimer’s disease
Alzheimer’s disease เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม (Dementia) อาการของโรคจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป สาเหตุเกิดจากสมองเกิดการเสื่อม ทำให้สารสื่อประสาท Acetylcholine ที่ส่งผลโดยตรงในด้านความจำลดลง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของโปรตีนบางชนิดในสมองเช่น Amyloid ทำให้มีปัญหาด้านความจำ การควบคุมอารมณ์ จิตใจ และพฤติกรรมของผู้ป่วยเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้มีปัญหาในการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน และการใช้ชีวิตในสังคม
อาการของผู้ป่วย Alzheimer’s disease ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 7 ระยะ (ระยะที่ 1-3 ยังไม่ถือว่าเป็นภาวะสมองเสื่อม)
ระยะที่ 1 : Normal Outward Behavior
- ระยะที่ยังไม่มีอาการ แต่สามารถตรวจพบได้จากการทำ PET Scan
ระยะที่ 2 : Very Mild Changes ระยะที่มีอาการน้อยมาก
- ผู้ป่วยจะมีอาการน้อยมาก แม้แต่คนในครอบครัวก็อาจจะยังไม่สังเกตเห็น
- อาจมีอาการหลงลืมคำ หรือลืมสิ่งของเล็กน้อย
ระยะที่ 3 : Mild Decline ระยะที่เริ่มมีอาการเล็กน้อย
- คนในครอบครัวจะสามารถเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นด้านความจำของผู้ป่วย
- มีปัญหาความจำระยะสั้น เช่น จำไม่ได้ว่าเพิ่งทำอะไรไป มีปัญหาในการจัดการ วางแผน หรือจำชื่อบุคคลไม่ได้ เป็นต้น
ระยะที่ 4 : Moderate Decline
- มีอาการหลงลืมเพิ่มมากขึ้น ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด ลืมเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง หรือลืมวันลืมเดือน เป็นต้น
- มีปัญหาด้านความคิด และการให้เหตุผล การแสดงความคิดเห็น หรือการจัดการต่างๆ เช่น การใช้โทรศัพท์ การสั่งอาหาร
- ต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในด้านการจัดการกิจกรรมที่ต้องใช้การตัดสินใจ กิจกรรมที่มีความซับซ้อน หรือกิจกรรมที่ต้องระวังความปลอดภัย
ระยะที่ 5 : Moderately Severe Decline ภาวะสมองเสื่อมรุนแรงปานกลาง
- ลืมข้อมูลส่วนตัวของตนเอง เช่น เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ หลงลืมวันเวลา/สถานที่
- มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องมีผู้ดูแลให้ความช่วยเหลือเช่น การอาบน้ำ การรับประทานอาหาร การใส่เสื้อผ้า เป็นต้น
ระยะที่ 6 : Severe Decline ภาวะสมองเสื่อมอย่างรุนแรง
- ต้องการการช่วยเหลืออย่างมาก
- ลืมชื่อสิ่งของ/บุคคล/สถานที่ มีปัญหาความจำระยะสั้น แต่ความจำระยะยาวอาจยังดีอยู่
- อาจเริ่มมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้
- มีปัญหาในการพูดสื่อสาร
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
ระยะที่ 7 : Very Severe Decline ภาวะสมองเสื่อมอย่างรุนแรงมาก
- ต้องได้รับความช่วยเหลือในทุกด้านตลอดเวลา ทั้งด้านการรับประทานอาหาร การขับถ่าย การทำกิจวัตรต่างๆ
- มีปัญหาด้านการพูด การสื่อสาร และการบอกความต้องการ
- อาจมีภาวะติดเตียง มีปัญหาในการเคลื่อนย้ายตัว
- มีปัญหาด้านการนอน มักไม่นอนตอนกลางคืน
นักกิจกรรมบำบัดจะเข้าไปมีส่วนในการบำบัดรักษาได้ตั้งแต่ระยะแรกๆของการเจ็บป่วย ทั้งบำบัดผู้ป่วยโดยตรง รวมถึงให้คำแนะนำ ดูแลสภาพจิตใจของผู้ดูแล และครอบครัว โดยมีจุดมุ่งหมายหลักของการบำบัดรักษาคือ เพื่อลดพฤติกรรมวุ่นวาย และเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองเพื่อการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย โดยมีวิธีการหลากหลาย เช่น
ในระยะแรกของการเจ็บป่วย
- ให้ความรู้ และแนะนำแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับ Alzheimer’s disease แก่ผู้ดูแล และครอบครัว
- แนะนำผู้ดูแล และครอบครัวในการใช้สื่อต่างๆ เพื่อส่งเสรมให้ผู้ป่วยทำกิจกรรม เช่น การใช้เสียงพูดที่มั่นคง การบอกขั้นตอน/ที่ชัดเจน ที่ละ 1-2 ขั้นตอน เพื่อป้องกันการสับสน เป็นต้น
- กระตุ้น และส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ และคงความสามารถในการเคลื่อนไหว
- แนะนำ หรือจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความเพลินเพลิน และทักษะทางสังคมของผู้ป่วย
- วิเคราะห์ปัญหาที่ทำให้เกิดความยากลำบากในการทำกิจวัตรประจำวัน หรือกิจกรรมที่ผู้ป่วยต้องทำ เพื่อพิจารณาปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับความสามารถปัจจุบัน
- แนะนำ หรือจัดทำอุปกรณ์ช่วย เช่น บันทึกเตือนความจำ ปฏิทิน เป็นต้น
- ปรับสิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิต หรือสภาพแวดล้อมของบ้าน เพื่อส่งเสริม คงความสามารถให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรด้วยตนเองให้มากที่สุด เช่น การนำของที่ผู้ป่วยต้องใช้เป็นประจำวางไว้ที่บริเวณเดิม เป็นต้น
ในระยะกลาง และระยะท้าย
- จัดกิจกรรมที่มีความหมายต่อผู้ป่วย รวมถึงส่งเสริมทักษะทางสังคม อาจจัดร่วมกับคนในครอบครัว หรือผู้สูงอายุด้วยกันเอง เช่น การทำอาหารง่ายๆ งานประดิษฐ์ การสวดมนต์ ร้องเพลงคาราโอเกะ เป็นต้น โดยพิจารณาจากความชอบ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในช่วงการทำงาน หรืองานอดิเรก
- แนะนำ สอนผู้ดูแล เกี่ยวกับการปรับขั้นตอนการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการทำด้วยตนเองมากที่สุด พยายามคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วย รวมทั้งวิธีการในการสื่อสารกับผู้ป่วย เนื่องจากต้องใช้คำสั่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ หรืออาจต้องใช้ร่างกายพาจับทำก่อน
- กระตุ้นการออกกำลังกาย และการเคลื่อนไหว แนะนำผู้ดูแลเกี่ยวกับวิธีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อสำหรับผู้ป่วยที่เคลื่อนไหวได้ลำบาก พาทำออกกำลังกาย การจัดท่า เพื่อป้องกันภาวะข้อติด หรือเป็นแผลกดทับ เป็นต้น
- ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับปัญหาการรับรู้ที่เสียไป และให้ง่ายต่อผู้ป่วยในการเคลื่อนไหวอย่างปลอดภัย เช่น เปลี่ยนห้องนอนลงมาเป็นชั้นล่างของบ้าน ปรับความสูงของเตียงให้เหมาะสม ห้องควรมีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มีสิ่งกีดขวาง หรือพรมที่จะลื่นได้ การติดตั้งราวจับในห้องน้ำ เป็นต้น
- ใช้รูปภาพเป็นสื่อในการทำกิจกรรม เช่น ทบทวนดูรูปครอบครัวและบอกชื่อ หรือใช้สิ่งของที่คุ้นเคย
- หากผู้ป่วยมีปัญหาการกลืน นักกิจกรรมบำบัดสามารถช่วยฝึกกระตุ้นกลืน และแนะนำการป้องกันการสำลัก รวมถึงการปรับอาหารที่เหมาะสม ปลอดภัยแก่ผู้ป่วยได้
ทั้งนี้ครอบครัว และผู้ดูแลมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการกระตุ้น และส่งเสริมความสารถของผู้ป่วยเนื่องจากเป็นบุคคลใกล้ชิด และเป็นผู้ที่ผู้ป่วยจะไว้วางใจมากที่สุด นอกจากที่นักกิจกรรมบำบัดจะดูแลบำบัดผู้ป่วยแล้ว ยังต้องดูแล และให้ความสำคัญแก่ครอบครัวของผู้ป่วยอีกด้วย
แหล่งอ้างอิง
1.ภาควิชากิจกรรมบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2554). กิจกรรมบำบัดสำหรับผู้ที่มีปัญหา ด้านระบบประสาท (พิมพ์ครั้งที่ 3). เชียงใหม่: บริษัท เชียงใหม่พริ้นติ้ง จำกัด.
2.Amanda Gardner. (2021). 7 Stages of Alzheimer’s disease. Retrieved 10 March 2022, from https://www.webmd.com/alzheimers/guide/alzheimers-disease-stages.