ปวดเมื่อย กล้ามเนื้อหายได้ โดยไม่ใช้ยาจริงหรือไม่?

 

ปวดเมื่อย กล้ามเนื้อหายได้ โดยไม่ใช้ยาจริงหรือไม่?

โอ๊ย ปวดเมื่อย ปวดคอ ปวดหลัง เมื่อยสะโพก ปวดขา ทุกคนเคยรู้สึกแบบนี้กันไหมคะ แล้วทราบไหมว่าทำยังไงอาการปวดเมื่อยเหล่านี้ถึงจะหายไป วันนี้เราจะมาทำความรู้จักการลดอาการปวดเมื่อยโดยวิธีการทางกายภาพบำบัดปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นอาการที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวันและเกิดได้กับทุกเพศและทุกช่วงวัย สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการปวดกล้ามเนื้อในชีวิตประจำวันมักมาจากการใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักหรือต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เช่น การทำงาน การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา โดยอาการปวดอาจเกิดขึ้นทันทีหลังทำกิจกรรมหรือเกิดขึ้นหลังทำกิจกรรมไปแล้ว 24-72 ชั่วโมง ซึ่งโดยทั่วไปอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมักหายเองได้ใน 1-5 วัน แต่บางครั้งอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอยู่ไม่น้อย หากทิ้งไว้ก็อาจเสี่ยงต่ออาการปวดเรื้อรังที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ การดูแลตนเองในเบื้องต้นอาจช่วยบรรเทาปวดและลดความเสี่ยงของผลกระทบจากอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ แต่ในบางรายที่มีอาการปวดเรื้อรัง รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจนต้องไปพบแพทย์ แพทย์มักรักษาตามอาการโดยให้กินยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อเพื่อบรรเทาอาการ การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายาจะช่วยบรรเทาอาการได้ แต่การกินยาอาจบรรเทาอาการได้เพียงชั่วคราว เมื่อฤทธิ์ยาหมดก็อาจกลับมาปวดเหมือนเดิม และอาจมีผลข้างเคียงตามมา เช่น อ่อนเพลีย ง่วงซึม เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่า ปากแห้ง ปัสสาวะไม่ออก เป็นต้น

ดังนั้น การใช้ยาจึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา ไม่ควรซื้อยามากินเอง ในปัจจุบันการศึกษาด้านความปลอดภัยของการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อในระยะยาวยังมีไม่มากนัก จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า การกินยาคลายกล้ามเนื้อ สามารถกินต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาได้นานแค่ไหนจึงจะปลอดภัย  แต่สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้คือ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยามากขึ้น อีกทั้งยาเหล่านี้ขับออกทางตับ และไต เมื่อใช้ยาเป็นเวลานานอาจมีผลกับอวัยวะเหล่านี้ได้ ทั้งนี้อาการปวดกล้ามเนื้อสามารถหายได้เอง และสามารถบรรเทาอาการด้วยวิธีอื่นโดยไม่ต้องใช้ยา เช่น การนวด ประคบ หรือทำกายภาพบำบัด

การรักษาทางกายภาพบำบัดช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ยังไง มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน

การรักษาทางกายภาพบำบัดจะช่วยลดอาการปวดบริเวณที่เกิดปัญหา โดยเริ่มจาก

1.การตรวจประเมินทางกายภาพบำบัดเพื่อหาสาเหตุของอาการปวด โดยนักกายภาพบำบัดจะตรวจประเมินท่าทางการเคลื่อนไหวของผู้ป่วยอย่างละเอียด โดยสังเกตท่าทาง (posture) การเคลื่อนไหวของร่างกายผู้ป่วยว่าอยู่ในตำเหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ ตรวจการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ทดสอบกำลังกล้ามเนื้อเพื่อระบุตำแหน่งของกล้ามเนื้อที่เป็นปัญหาเพื่อการรักษาที่ชัดเจน พร้อมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกายและการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อที่ถูกต้อง

2.การรักษาโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด ไม่ว่าจะเป็นการคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นสาเหตุของอาการปวดโดยใช้ manual technique เช่น การนวดและยืดกล้ามเนื้อ (stretching) หรือใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดร่วมด้วย เช่น การบำบัดรักษาด้วยคลื่นความร้อนลึก เช่น Ultrasound หรือ Short wave diathermy ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการซึ่งแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย

3.แนะนำ โปรแกรมการออกกำลังกาย ซึ่งท่าทางการออกกำลังกายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับแก้โครงสร้างของร่างกายในส่วนที่เป็นปัญหาเพื่อให้เกิดสมดุลและเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ สอนให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปปฏิบัติได้ด้วยตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเดิมซ้ำอีกในอนาคต

4.ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ โดยการตรวจร่างกายและทดสอบระบบการเคลื่อนไหวเพื่อเปรียบเทียบผลการรักษา หากผู้ป่วยเริ่มเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและอาการเจ็บปวดลดลง นักกายภาพบำบัดอาจพิจารณาปรับท่าหรือเพิ่มท่าออกกำลังกายเพื่อให้มั่นใจว่ากล้ามเนื้อต่างๆที่เป็นปัญหาได้รับการแก้ไขสามารถเคลื่อนไหวได้เป็นปกติหรือใกล้เคียง

Aches and pains, muscles disappear Without using drugs or not?

Oh, aches and pains, neck pain, back pain, hip pain, leg pain, has everyone ever felt this way? Do you know how to do these aches and pains to disappear? Today we will get to know how to reduce pain by physical therapy. Muscle pain is a common symptom in daily life and can occur to all genders and ages. Most common causes of muscle pain in everyday life are caused by heavy or prolonged use of the muscles, such as work, exercise or sports.

The pain may occur immediately after activity or occur 24-72 hours after the activity. Generally, muscle aches usually resolve on

1. Physical therapy assessment to determine the cause of pain, where physical therapists will carefully assess the patient’s posture and movement. By observing the posture (posture) movement of the patient’s body that is in the correct position or not.

Check the movement of the joints Muscle strength tests are used to identify the problematic muscles for a clear treatment. as well as to educate patients about the structure of the body and the proper functioning of bones and muscles

2. Treatment using physical therapy tools Either to relieve muscle spasms that cause pain by using manual techniques such as stretching and massage, or using physical therapy tools such as deep heat wave therapy such as ultrasound or Short wave diathermy, depending on the severity of the condition, varies from patient to patient.

3. Introduce an exercise program which exercises postures designed to help restructure the body in problem areas in order to achieve balance and strengthen the muscles. Teach patients to be able to return to the practice on their own to prevent the same problems from repeating in the future.

4. Continuous follow-up of treatment results from time to time by physical examination and testing the movement system to compare the results of treatment. If the patient begins to move better and the pain is reduced. A physical therapist may consider adjusting or adding exercises to ensure that the muscles in question are able to move normally or in close proximity.

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

FACEBOOK :: ReBRAIN

Scroll to Top