Balance Training บนพื้นผิวไม่มั่นคง (Unstable Surface) ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง
ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) มักมีความบกพร่องด้านการทรงตัว (balance impairment) จากการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อครึ่งซีก, การรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (proprioception) ลดน้อยลง และการควบคุมลำตัว (trunk control) ที่ไม่สมบูรณ์ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการหกล้มและจำกัดความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน
การฝึกการทรงตัว หรือ Balance training บนพื้นผิวไม่มั่นคง (Unstable Surface Training) ถือเป็นวิธีการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยต้องใช้กลยุทธ์การทรงตัว (postural strategies) ทั้ง ข้อเท้า (ankle), ข้อสะโพก (hip) และการก้าวเท้า (stepping strategy) มากขึ้นกว่าการฝึกบนพื้นปกติ
วัตถุประสงค์ของการฝึกบนพื้นผิวไม่มั่นคง
1 .พัฒนาความสามารถในการควบคุมลำตัวและแกนกลาง (core stability, trunk control)
2. กระตุ้นระบบการรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (proprioception) และ postural reflex
3. เพิ่มประสิทธิภาพของความสามารถในการทรงตัวขณะร่างกายอยู่นิ่ง (static balance) และความสามารถในการทรงตัวขณะเคลื่อนไหวหรือมีการเปลี่ยนแปลงทิศทาง (dynamic balance)
4. ลดความเสี่ยงต่อการหกล้มและเพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหว
5. ส่งเสริมให้ผู้ป่วยกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างอิสระ
วิธีการฝึก Balance Training บน Unstable Surface
1. การฝึกในท่านั่ง
• นั่งบน therapy ball / balance cushion
• ฝึกถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้า–หลัง และซ้าย–ขวา
• ฝึก reaching task เช่น เอื้อมหยิบของด้านหน้า/ด้านข้าง
2. การฝึกในท่ายืน
• ยืนบน balance pad หรือ foam
• ฝึก weight shifting ไปด้านต่าง ๆ
• ยืนเท้าชิด (narrow stance), ยืนต่อเท้า (tandem stance) หรือ การยืนขาเดียว (single-leg stance) โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้ฝึก
• ฝึก mini-squat หรือ step-in-place บนโฟม
3. Dynamic Balance Training
• ก้าวขาไปด้านหน้า–ข้าง–หลัง บนพื้นผิวไม่มั่นคง
• ฝึก stepping over สิ่งกีดขวางเล็ก ๆ
• ฝึก turning และ reaching ในขณะยืนบนโฟม
4. Functional Training
• ฝึก sit-to-stand โดยมี balance pad รองเท้า
• ยืนบน balance pad แล้วหยิบของจากโต๊ะสูง–ต่ำ
• ฝึก dual-task เช่น รับ–ส่งบอลในขณะยืนบนพื้นผิวไม่มั่นคง
ข้อควรระวัง
• ผู้ป่วย stroke มีความเสี่ยงหกล้มสูง ควรมี นักกายภาพบำบัดอยู่ใกล้ ๆ ตลอดการฝึก
• เริ่มจากการฝึก static ก่อน แล้วจึงพัฒนาไปสู่ dynamic และ functional task
• ปรับความยากง่ายตามศักยภาพของผู้ป่วย เช่น เริ่มจากหมอน/โฟมหนา ก่อนใช้ balance ball หรือ BOSU
หลักฐานทางวิชาการ (Evidence-based)
งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การฝึก balance บนพื้นผิวไม่มั่นคงในผู้ป่วย stroke สามารถช่วยเพิ่มคะแนนในเครื่องมือการทดสอบการทรงตัวต่างๆ เช่น Berg Balance Scale (BBS), Functional Reach Test (FRT) และ Timed Up and Go (TUG) ได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการฝึกบนพื้นปกติ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเคลื่อนไหวและลดอุบัติการณ์การหกล้มในชีวิตประจำวัน
Balance training บนพื้นผิวไม่มั่นคงเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากช่วยกระตุ้นกลไกการทรงตัวและพัฒนาการควบคุมร่างกายได้มากกว่าพื้นแข็งเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ควรออกแบบโปรแกรมการฝึกที่เหมาะสมกับความสามารถของผู้ป่วย และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ
เอกสารอ้างอิง
1.Mansfield A, Inness EL, Komar J, et al. Training balance in stroke patients: a systematic review. Neurorehabil Neural Repair. 2015;29(6):533–546.
2.Park JH, Lee NK. The effects of balance training on unstable surfaces on balance and walking ability in stroke patients. J Phys Ther Sci. 2016;28(12): 3339–3342.
3.Pollock A, Baer G, Campbell P, et al. Physical rehabilitation approaches for the recovery of function and mobility following stroke. Cochrane Database Syst Rev. 2014;2014(4):CD001920.