Cognitive Training
โรคหรือปัญหาทางสุขภาพ เช่น การบาดเจ็บของสมอง โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม หรือแม้กระทั่งโรคซึมเศร้า มีผลกระทบต่อสมองและทำให้ผู้ป่วยหลายคนคิดหรือประมวลผลข้อมูลต่างๆได้ยากขึ้น การฝึกกระตุ้นความรู้ความเข้าใจ (Cognitive Training) จึงเป็นอีกหนึ่งการรักษาที่ช่วยให้ความสามารถในการคิดของผู้ป่วยดีขึ้นได้หลังจากมีอาการบาดเจ็บทางสมองหรืออาการป่วยอื่นๆที่ส่งผลกระทบต่อสมอง
การฝึกกระตุ้นความรู้ความเข้าใจ เป็นการฝึกที่มุ่งเน้นไปที่ปัญหาทางการรับรู้ หรือความสามารถของสมองในการประมวลผลและเข้าใจข้อมูลต่างๆ โดยมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย แต่การรักษาเหล่านั้นมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูกระบวนการในการรับข้อมูลและการประมวลผลออกมาในรูปแบบต่างๆ (Cognitive function) ซึ่งการรักษาไม่ได้มีแนวทางเดียวที่ใช้ในการฟื้นฟู แต่เป็นการปรับประเภทการฝึกหรืองานให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับทักษะที่ต้องการจากการฝึกนั้นๆ โดยมุ่งเน้นที่การฟื้นฟูทักษะหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งทักษะดังต่อไปนี้ ความจำ(Memory), ความตั้งใจ(Attention), ความเข้าใจ(Understanding), การให้เหตุผล(Reasoning), การตัดสินใจ(Decision making), การจัดการ(Organization), การวางแผน(Planning), ความเร็วในการประมวลผล(Processing speed), การแก้ไขปัญหา(Problem solving), การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน(Multitasking), การสื่อสาร(Communication), การตระหนักรู้ในตนเอง(Self-awareness) เป็นต้น
Cognitive rehabilitation เป็นการฟื้นฟูโดยอาศัยแนวคิดเรื่องความยืดหยุ่นของสมอง (Neuroplasticity) หรือความสามารถของสมองที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต ด้วยการปรับโครงสร้างและสร้างเซลล์ประสาทใหม่ การฝึกโดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภทได้แก่ การรักษาเชิงฟื้นฟู (Restorative treatment) ซึ่งเกี่ยวกับการฝึกสมองหรือการออกกำลังกายสมอง เช่น การฝึกความจำ เกมแก้ไขปัญหา ความเร็วในการประมวลผล เป็นต้น และอีกประเภทคือ การรักษาแบบชดเชย (Compensatory treatment) ซึ่งเป็นการฝึกที่ช่วยในการจัดการกับข้อบกพร่องจากอาการป่วย โดยนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ ยกตัวอย่างเช่น การจดจำวันนัดหมายพบแพทย์ที่โรงพยาบาล อาจใช้ปฏิทิน ใช้สมาร์ทโฟน การตั้งนาฬิกาปลุก การทวนคำพูดซ้ำในทันทีเพื่อช่วยในการจดจำ ซึ่งเป็นการชดเชยการทำงานของสมองที่ลดลงนั่นเอง
การฟื้นฟูการรับรู้การเข้าใจ มีความสำคัญอย่างมากในผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางสมองหรืออาการป่วยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสมอง ทำให้สมองรับข้อมูลและประมวลผลได้ช้าลง และส่งผลให้มีปัญหาในชีวิตประจำวันอื่นๆตามมาได้ โดยแต่ละคนมีปัญหาด้านการรับรู้และการเข้าใจที่แตกต่างกัน จึงต้องมีการเลือกวิธีการฝึกให้เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ เพื่อช่วยในการจัดการปัญหาและช่วยให้การทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆอีก เช่น การมีความสัมพันธ์กับคนรอบตัวที่ดีขึ้น ใช้ชีวิตได้ด้วยตนเองหรือลดการพึ่งพาผู้อื่น เพิ่มความสามารถในการสื่อสารกับผู้อื่น การจัดการกับงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดี มีการตัดสินใจและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
Cognitive Training
Illnesses or health problems such as brain injuries, strokes, dementia, or even depression affect the brain and make it harder for many patients to think or process information. Cognitive training is another treatment that can help improve a patient’s thinking ability after a brain injury or other illnesses that affect the brain.
Cognitive training is a training that focuses on cognitive problems or the brain’s ability to process and understand information. There are many different treatment methods, but these treatments aim to restore the process of receiving information and processing it in various forms (Cognitive function). There is not a single approach to treatment for rehabilitation, but rather to adjust the type of training or work to suit each individual’s problems and depending on the skills required from that training. It focuses on restoring one or more of the following skills: Memory, Attention, Understanding, Reasoning, Decision making, Organization, Planning, Processing speed, Problem solving, Multitasking, Communication, Self-awareness, etc.
Cognitive rehabilitation is a rehabilitation based on the concept of brain plasticity or the ability of the brain that can change throughout life by adjusting the structure and creating new nerve cells. There are 2 types of general training: Restorative treatment, which is about brain training or brain exercise, such as memory training, problem-solving games, processing speed, etc. and Compensatory treatment, which is training to help manage the defects from illness by applying it to daily life. For example, remembering the appointment date at the hospital may use a calendar, a smartphone, setting an alarm clock, and repeating words immediately to help remember, which is a compensation for the reduced brain function.
